เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นในหน้าร้อนและให้ประสบการณ์ที่พิเศษแบบคราฟท์เบียร์ ในบ้านเราตอนนี้เริ่มหาง่ายขึ้นไม่ว่าจะจากซูเปอร์มาเก็ตหรือจาก craft bar ที่เพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก แต่ถ้าเราอยากได้ประสบการณ์ที่พิเศษมากขึ้นเราอาจต้องดื่มคราฟท์เบียร์คู่กับอาหาร
เราคุ้นกับการจับคู่ไวน์กับอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติและประสบการณ์ของทั้งคู่ ในคราฟท์เบียร์ก็เช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากคราฟท์เบียร์มีความหลากหลายในเรื่องสไตล์และรสชาติ ทำให้การเลือกอาหารที่มาทานคู่กัน (paring) จึงต้องมีหลายแบบ ตามสไตล์ไปด้วย พอดีไปเจอบทความที่กล่าวถึงการ paring อาหารกับ craft beer มาเลยอยากจะขอมาสรุปให้อ่านกันครับ
อาหารที่จะพูดถึงวันนี้ควรจะเป็นอาหารที่เสริฟมาในแบบนั้น โดยที่ยังไม่ผ่านการปรุงเพิ่ม เพราะการปรุงเพิ่มอาจทำให้อาหารเปลี่ยนไปจากเจตนาของเชฟหรือพ่อครัว เวลาที่เราเอาอาหารมา pairing กับ craft beer แล้วนั้นมีแนวโน้มที่จะออกมาได้ 3 รูปแบบ คือ 1. ส่งเสริมกัน เมื่ออาหารกับเบียร์ให้รสชาติไปทางเดียวกัน 2. อาจพบรสชาติตรงกันข้ามกัน เพื่อเป็นการตัดรส เพื่อเพิ่มความสมดุล 3. อาจะพบรสชาติใหม่เมื่อนำอาหารและเครื่องดื่มที่รสชาติแตกต่างกันมาจับคู่กัน โดยที่การจับคู่กันจะให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่และความสนุกสนาน อาหารบางอย่างที่เห็นแล้วแปลกลองเปิดใจทดลองดูอาจจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ครับ
Oysters : หอยนางรม
คราฟต์เบียร์และหอยนางรมเป็นหนึ่งในการจับคู่ที่ลงตัวที่สุดของโลก หอยนางรมมีความเค็มเฉพาะตัวที่คุณจะทำให้คุณอยากกลับมากินอีก หอยนางรมมีหลายประเภท แต่ละอย่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะทั้งด้านความเค็มและความหวาน ท่ามกลางรสชาติที่ซับซ้อน
สำหรับหอยนางรมที่มีรสเค็มมาก เช่น Atlantic Malpeques เบียร์ Pilsner ที่ Crisp เป็นทางเลือกที่ดีในการขจัดความเค็มและช่วยล้างรสในปาก ส่วนหอยนางรมในแบบที่หวาน เช่นที่มาจาก pacific เข้ากันได้ดีกับเบียร์เปรี้ยวอย่าง Berliner weisse หรือ Belgian lambic
Sushi : ซูชิ
ซูชิส่วนใหญ่จะไปได้ดีกับเบียร์ Classic Lager ของญี่ปุ่น แต่ก็มี Craft Lager หลายแบบที่ทานคู่กันแล้วให้ความเข้ากันที่ดีกว่า ซูชิทั่วไปจะเข้ากันดีกับ Lager ที่รสชาติเรียบๆ สำหรับปลาที่ความครีมมี่และเนื้อเนียนกว่า เช่น แซลมอนที่มีไขมันสูงหรือทูน่า เบียร์ที่เข้มกว่าจะช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้เนียนนุ่มขึ้น หรืออาจะเป็น dark lager ที่ให้ความคั่วเล็กน้อยเพิ่มความซับซ้อนในขณะที่ยังให้ความ crisp อยู่
Steak : สเต็ก
ถ้าคุณชอบการจับคู่ระหว่างไวน์แดงกับสเต็กแบบคลาสสิก อยากให้ลองดื่มเบียร์ที่มีเนื้อเบียร์ที่มีกลิ่นหวาน หรือเป็น Barleywine ที่ไม่หวานเกินไปจะไปได้ดีมากกับสเต็ก หรือแบบตรงข้ามกันคือจับคู่สเต็กกับเบียร์ที่มีความบางเบาและสดชื่น หรือเบียร์ที่มีความเปรี้ยวเล็กน้อย ที่จะเข้าไปช่วยละลายไขมันจากเนื้อที่อยู่ในปาก
Roast Chicken : ไก่ย่าง
ไก่ย่างฉ่ำๆคู่กับเบียร์ได้เกือบทุกสไตล์ ถ้าคุณกำหลังหาอาหารที่จับคู่กับ NEIPA ไก่ย่างช่วยได้ แม้เบียร์ที่มีความ fruity สูงจะจับคู่กับอาหารได้ยาก แต่กลับเข้ากันได้ดีกับไก่ย่าง และที่เข้ากับไก่ย่างได้ดีก็มีสไตล์ Pale Lager, Saison, Belgian Blonde อีกด้วย
Barbecue : บาร์บีคิว
Ribs, pulled pork และ brisket มีความมัน ความนุ่มและความอร่อย เหมาะที่สุดในการจับคู่กับ American Light Lager แต่ในทางกลับกับเบียร์ที่มีสีเข้มก็เหมาะสมมากเพราะสามารถช่วยยกระดับรสชาติไปอีกมิติได้ เช่น Rauchbier หรือ smoked beer
Fish And Seafood : ปลาและอาหารทะเล
ปลาปกติจะเสิร์ฟกับเบียร์ที่เพิ่มความสดชื่นเช่น Pilsner, Blonde ale, Saison หรือ IPA ที่มีฮอปปานกลาง
แต่สำหรับปลาทอดเราต้องเลือกอีกแบบ Fish and Chips เข้ากันได้ดีกับ English Bitter หรือ American Pale Ale ที่มีฮอปอ่อนโยน รวมถึง dry porter ที่ให้รสตัดกันกับปลาทอดกรอบๆและ french fries เค็มๆ
ปลาที่มีไขมันสูงจะเข้ากันดีกับ Stout ที่หนักแน่น เพราะความหนักแน่น หวาน และคั่วในเบียร์จะช่วยให้ความสมดุลกับความมันจากปลา
สำหรับสัตว์เปลือกแข็ง เช่น หอย กุ้งหรือปู จะเข้ากันได้ดีกับ Witbier, Hefeweizen หรือ Belgian blonde
Spicy Food : อาหารรสจัด
ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย เวียดนาม อินเดีย แม็กซิกัน อเมริกัน เบียร์คือสิ่งที่ดีที่สุดในการช่วยลดความเผ็ดร้อน โดยทั่วไปอาหารรสจัดจะเข้ากันดีกับความขม เพราะจะช่วยเพิ่มการรับรส พร้อมยังช่วยล้างรสในปาก West Coast IPA จึงเป็นสิ่งที่เหมาะกับความหลากหลายจากเครื่องเทศ
สำหรับอาหารจานที่เผ็ดมากๆ เบียร์ที่เนื้อแน่นแต่แอลกอฮอล์ต่ำ เช่น Stout, Mild หรือ Witbier ความหวานจะช่วยลดความเผ็ดร้อน
Pasta : พาสต้า
สำหรับพาสต้าซอสแดงทั้ง spaghetti หรือ lasagna นี่แน่นและเต็มไปด้วยรสชาติ นั้นจะเหมาะกับ Pilsner ที่มีเนื้อบาง หรือ American Pale Ale ที่ไม่ขมเกินไป
ส่วนพาสต้าแบบซอสขาว เช่น carbonara ที่มีความครีมมี่ ชีสซี่ จะไปได้ดีกับ Blonde เบียร์เช่น Saison, Belgian Pale Ale ความขมเล็กน้อยจะช่วยตัดรสครีม
Dessert : ของหวาน
ของหวานที่ทำจากผลไม้สดเข้ากันได้ดีกับเบียร์ที่บางและ fruity อย่าง Witbier, Saison และ Lambic ส่วนของหวานจำพวกผลไม้สุกแบบ pie จะเข้ากันดีกับ Stout ที่มีคาแรคเตอริของผลไม้แห้งหรือกาแฟ
Cheese : ชีส
ชีสกับ craft beer นั้นเป็นคู่ที่เหมาะสม ความหลากหลายของชีสและความหลากหลายของ craft beer นั้นไม่มีขีดจำกัด แต่กฏพื้นฐานคือ ต้องดูที่ความเข้มข้นของรสชาติ เช่น blue cheese ที่รสเข้มข้น ควรเข้ากับ Stout, Barleywines หรือ Sour Beer
ความ funky จาก Belgian lambic, American Wild Beer สามารถใช้เพิ่มรสชาติของชีสที่มีความ funky ที่รุนแรงได้
ชีสที่กลิ่นรสอ่อน เช่น brie หรือ young gouda เข้ากันได้ดีกับ Blonde Ale ในแบบ American และ Belgian ความขมเล็กน้อยในเบียร์จะช่วยทำให้ความครีมมี่ในชีสเปล่งประกาย
สำหรับ cheddar, manchego หรือ monterey jack เบียร์สีอ่อนที่หวานจะช่วยตัดรส ควรลองกับ English Bitter หรือ American Pale Ale ที่มีรสคาราเมลซ่อนอยู่
ความสนุกและประสบการณ์ในโลกแห่ง craft beer นั้นมีมากมายและไม่รู้จบ แต่เพราะเบียร์คือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การดื่มแบบรับผิดชอบจะส่งผลที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและคนรอบข้าง แปลเรื่องวันนี้จบแล้วอยากเขียนเรี่องเรื่องกับแกล้มที่เหมาะทานคู่กับเบียร์ พบกับใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
SPACEMAN
Source: bisonbrew
Drink Responsibly.
SPACECRAFT