โพสท์นี้ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อบอกว่าเครื่องดื่มในขวดสีแบบไหนดีกว่ากัน แต่เป็นการให้ความรู้ตามหลักวิทยาศาสตร์เท่านั้น
ในตลาดเราจะพบขวดเบียร์หลายสี ทั้งแบบขวดไม่มีสี ขวดสีเขียว หรือขวดสีน้ำตาล แต่สีของขวดเบียร์ส่งผลต่อคุณภาพหรืออายุของเบียร์แค่ไหน?
เบียร์แบบขวดเริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เพราะในตอนนั้นผู้ผลิตเบียร์คิดว่าจะช่วยทำให้เบียร์มีอายุยาวนานขึ้น มีความสดใหม่ที่ยาวนานกว่า ผ่านมาอีกไม่นานจึงทราบว่า ขวดแบบใสที่ไม่มีสีไม่เหมาะสำหรับเบียร์ เพราะแสงมีผลต่อคุณภาพ เพราะแสง UV ก่อให้เกิดความ skunky ที่ในอุตสาหกรรมการผลิตเบียร์ เรียกอาการนี้ว่า “Lightstruck” หลังจากนั้นขวดเบียร์แบบไม่มีสีจึงถูกแทนที่ด้วยขวดเบียร์แบบสีน้ำตาลเพราะสามารถป้องกันแสง UV ได้ดีกว่า
แต่จากสถาณการณ์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้วัตถุดิบในการผลิตขวดสีน้ำตาลมีความต้องการสูงและส่งผลต่อราคา ทางผู้ผลิตจึงเริ่มมาใช้ขวดสีเขียวแทนแม้จะรู้ว่าป้องกัน UV ได้ดีไม่เท่าขวดสีน้ำตาล แต่ก็ยังดีกว่าใช้ขวดแบบใส
แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักดื่มกลับมองว่าเบียร์ในขวดสีเขียวเป็นเบียร์ในแบบ ”พรีเมี่ยม” มากกว่าแบบขวดสีน้ำตาล ปัญหาของขวดสีเขียวคือ ไม่สามารถป้องกันแสงได้ดีเท่ากับขวดสีน้ำตาล แต่หลายแบรนด์ใช้ขวดสีเขียวมาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์และไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้สีอื่นได้
Lightstruck ที่ให้กลิ่น skunky เกิดจากเอ็นไซม์บางอย่างในฮอปซึ่งอ่อนไหวต่อแสง เมื่อได้รับแสงที่รุนแรงจะเกิดการ photo-oxidation และก่อให้เกิด active compound ชื่อ Prenylthiol หรือ 3-methyl-2-butene-1-thiol (MBT) ซึ่ง MBT คือสารประกอบที่ให้กลิ่นรสที่รุนแรงที่สุดชนิดหนึ่งในโลก ที่ทั่วไปจะเรียกว่า “Skunky” ที่มีกลิ่นคล้ายกลิ่นฉุนที่สกั๊งค์ขับออกมาเพี่อใช้ป้องกันตัว
ขวดเบียร์สีเขียวหรือขวดเบียร์แบบใส จะสามารถป้องกัน reaction นี้ได้เพียงเล็กน้อยหรืออาจจะไม่ได้เลย แต่ขวดสีน้ำตาลจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าในการป้องกันแสง และเบียร์แบบกระป๋องหรือแบบถังสดจะป้องกันแสงได้ดีที่สุด เราจึงพบคราฟท์เบียร์ทั้งหมดในขวดสีน้ำตาลหรือในแบบกระป๋อง เพราะป้องกันแสงได้ดีกว่า
แต่ไม่ว่าจะขวดสีอะไร จะดื่มจากขวดหรือกระป๋อง เบียร์เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ดังนั้นเราไม่ควรดื่มแล้วขับรถ การดื่มที่ดีเพื่อศึกษาศิลปะเราควรดื่มในปริมาณที่พอดีและรับผิดชอบต่อสังคมครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า 🚀
SPACEMAN
Drink Responsibly.
SPACECRAFT