จากตอนที่แล้ว IPA เกิดขึ้นที่อังกฤษในช่วงปี 1800 ซึ่งแตกต่างจาก IPA ในปัจจุบันนี้มาก ทุกวันนี้มี IPA แบบไหนที่เราเจอกันบ่อยๆ บ้าง?
1. English IPA – ไอพีเอสายต้นตำหรับ แอลกอฮอล์สูง ฮอปนำ ด้วยฮอปสายพันธุ์อังกฤษ ที่ Flavor และ Aroma ออกมาทาง Earthy, Floral ตามสไตล์ฮอปอังกฤษ โดยที่ English IPA จะออกมาแนว Balance ระหว่างมอลต์และฮอป
2. American IPA – ไอพีเอที่สดชื่น แอลกอฮอล์สูง ฮอปนำเช่นกัน แต่ฮอปจากฝั่งอเมริกาส่วนใหญ่จะให้อโรม่าที่สดชื่นกว่าและยังแบ่งออกเด่นๆเป็น 2 ฝั่งประเทศซึ่งตัวแทนฝั่งตะวันตกจะเป็นแบบ West Coast IPA ส่วนฝั่งตะวันออกจะมาสาย Hazy/New England
2.1 American West Coast IPA ไอพีเอสายคลาสสิก ตัวแทนฝั่งตะวันตกจากอเมริกา นอกจากจะใช้ฮอปสายพันธ์ุอเมริกาแล้ว คาแรคเตอร์หลักคือใส มีความขมมากๆ Dry และ Piney อโรม่าแนวยางต้นสน เบียร์ที่คนชอบแล้วจะชอบเลย เรียกได้ว่าเป็น Classic IPA ได้
2.2 Hazy IPA/ New England IPA ไอพีเอหน้าใหม่ไฟแรง จะเรียกว่าตัวแทนฝั่งตะวันออกน่าจะได้เพราะเป็นที่นิยมสูงมากไม่ใช่แค่จากอเมริกาแต่เป็นสไตล์ที่ 2-3 ปีหลังมานี้ โรงเบียร์ทำกันทั้งโลก เป็นเบียร์ที่ขมน้อยถึงขมกลาง อโรม่ามีความ Juicy ส้มๆเปลือกส้ม เป็นเบียร์ขุ่นที่เกิดจากการใส่ฮอปจำนวนมาก ดื่มง่ายกว่า American IPA
3. White IPA ไอพีเอวัยใส ที่ใช้ Wheat Malt เป็นส่วนผสม เนื่องจากเป็น IPA ที่ดื่มง่าย สดชื่นมากกว่า American IPA ความขมไม่มาก ที่เป็นลูกผสมระหว่าง American IPA และ Belgian Witbeer
4. Double IPA ไอพีเอสำหรับสายโหดตัวจริง ใส่ฮอปแบบบ้าคลั่ง แอลกอฮอล์หนักกว่า American IPA รสชาติเข้มข้น มีความซับซ้อนของมอลต์ ABV หนักแน่นตั้งแต่ 7.5%-10%ขึ้นไป
Black IPA ไอพีเอสีดำคนที่ไม่ชอบก็เกลียดเลย แบ่งได้ 2 ทาง ทางแรกคือมีความฮอปปี้ถอดแบบมาจาก American IPA ผสมกับกลิ่นคั่ว และแบบที่ 2 คือดำแต่สี กลิ่นคั่วไม่ชัด แต่มีความฮอปปี้สูง
Red IPA ไอพีเอสายแปลก ออกมาในสไตล์เดียวกับ American IPA ที่เด่นด้านฮอป แต่จุดที่แตกต่างคือ Red IPA จะมีความคาราเมล ทอฟฟี่และ dark fruit มาผสมด้วย บางตัวอาจจะมีการใส่น้ำตาลทรายแดงในขั้นตอนการผลิต
และยังมี IPA อีกหลายชนิดที่ไม่ได้กล่าวถึง เพราะหาดื่มยาก โลกของเบียร์มีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ ถ้าใครรักในศิลปะแห่งการดื่ม ฝากช่วยกด follow กด share และฝากแบรนด์ SPACECRAFT ไว้ด้วยนะครับ 🚀