การจะดื่มเครื่องดื่มคราฟท์แบบผู้รู้ 10 ข้อต่อไปนี้จะช่วยให้ดื่มแบบสนุกมากขึ้นนะครับ
1. Craft Beer ต้องมาจากโรงขนาดเล็ก, เป็นอิสระ และผลิตด้วยวิธีดั้งเดิม (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก 2 โพสท์ที่แล้วนะครับ)
2. Craft Beer ประกอบด้วย 4 วัตถุดิบหลักคือ น้ำ, มอลต์, ฮอป และยีสต์ ที่แต่ละวัตถุดิบจะสร้างความหลากหลายในแต่ละสไตล์ได้มากมาย
3. เบียร์เกิดจาก การนำบาร์เลย์มอลต์มาบดและนำมา Mashing (แช่ไว้ในน้ำร้อนเพื่อสกัดน้ำตาล) ขั้นตอนต่อมาคือการ Sparging (คือการใช่ความร้อนมากกว่าเดิมล้างเอาน้ำที่ผสมน้ำตาลที่สกัดจากมอลต์(wort)ออกจากกากมอลต์ จากนั้นก็นำไปต้ม(Boiling) เพื่อฆ่าเชื้อและใส่ฮอปเพิ่มรสชาติ ต้มจนถึงเวลาที่ต้องการแล้วก็ทำให้เย็นลงและเอาเข้าถังหมักและใส่ยีสต์
4. สิ่งที่ทำให้ Craft Beer แตกต่างจากเบียร์ทั่วไปที่เราเคยดื่มคือ Beer Style ที่มีความหลากหลายมาก การศึกษาด้าน Beer Style ไว้จะช่วยให้คุณแยกแยะได้ว่าเบียร์ตัวนี้สไตล์ไหน
5. โดยที่สไตล์ทั้งหมดของเบียร์หลักๆเกิดจากสายพันธุ์ของยีสต์ 2 ชนิด คือ Lager Yeast และ Ale Yeast โดยที่ Lager Yeast จะทำให้เกิดเบียร์สไตล์ Lager, Pilsner และอีกนิดหน่อย ส่วน Ale Yeast จะเป็นตัวผลิต เกือบทุกสไตล์ที่เหลือ ดังนั้นเราจะเข้าใจว่า Ale Yeast คือพระเอกของวงการ Craft Beer
6. Craft Beer หลายตัวจะมีแอลกอฮอล์สูงกว่าเบียร์ปกติที่เราดื่มกัน อาจจะมีตั้งแต่ 5-15% ดังนั้นก่อนดื่มสังเกตุไว้หน่อยจะปลอดภัยกว่านะครับ
7. Craft Beer บางสไตล์เช่น pale ale หรือ IPA จะมีความขมมากกว่าเบียร์ทั่วไปที่เคยดื่มเช่นกัน โปรดสอบถามความขมจากผู้ขายก่อน
8. กลิ่นคือสิ่งที่โดดเด่นมากๆของ Craft Beer จะออกมาได้ทั่งกลิ่นที่มาจากฮอป และกลิ่นจากส่วนผสมอื่น การดื่มและค่อยๆจับกลิ่นในเบียร์ไปก็เป็นการได้ความรู้เพิ่มขึ้น
9. ปกติ Craft Beer จะเป็นเบียร์ของแต่ละท้องถิ่น แต่สำหรับบ้านเราเนื่องจากมีกฏหมายห้าม จึงทำให้คราฟท์เบียร์เกือบทุกเจ้าในไทยต้องไปผลิตเมืองนอกและนำเข้ามาขาย ดังนั้นจะหาซื้อยากหน่อย
10. Craft Beer ทั่วไปอยากให้ดื่มแบบ “ไม่ใส่น้ำแข็ง” เพราะน้ำแข็งที่ละลายจะทำความเสียหายต่อกลิ่นและรสชาติของ craft beer แบบมหาศาล แต่บางสไตล์ที่แอลกอล์สูงมากๆและรสชาติเข้มข้นมากๆการใส่น้ำแข็งเล็กน้อยก็ทำให้ดื่มง่ายขึ้น
สัปดาห์ต่อไปอาจจะลงลึกในบ้างข้อให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ
Drink Responsibly.